คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบมากที่สุดในร่างกายมนุษย์ โดยคิดเป็น 25-35% ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue) ที่ช่วยยึดเกาะเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ เข้าด้วยกัน พบได้ในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เช่น ผิวหนัง กระดูก เอ็น กล้ามเนื้อ เส้นเลือด กระดูกอ่อน เป็นต้น
คอลลาเจนแบ่งออกเป็น 16 ชนิด โดยชนิดที่พบมากที่สุดในร่างกายมนุษย์คือ คอลลาเจนไทป์ 1 (Type I collagen) ซึ่งพบได้มากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย พบได้ทั้งในผิวหนัง กระดูก เอ็น กล้ามเนื้อ และเส้นเลือด

ประโยชน์ของคอลลาเจน
- ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับผิว ทำให้ผิวดูกระชับ เต่งตึง ลดริ้วรอย
- ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
- ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อและข้อเสื่อม
- ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
- ช่วยเร่งการฟื้นตัวจากบาดแผล
การรับประทานคอลลาเจน
คอลลาเจนสามารถรับประทานได้จากอาหารต่างๆ เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ผักใบเขียว และผลไม้บางชนิด เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อย่างไรก็ตาม ปริมาณคอลลาเจนที่ได้จากอาหารอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงอาจต้องรับประทานคอลลาเจนในรูปแบบอาหารเสริมเพิ่มเติม
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจนหลากหลายรูปแบบให้เลือกรับประทาน เช่น คอลลาเจนแบบผง คอลลาเจนแบบเม็ด และคอลลาเจนแบบเครื่องดื่ม การรับประทานคอลลาเจนในรูปแบบใดนั้นขึ้นอยู่กับความสะดวกและรสนิยมของแต่ละบุคคล
ปริมาณการรับประทานคอลลาเจน
ปริมาณการรับประทานคอลลาเจนที่แนะนำต่อวันคือ 10-15 กรัม โดยอาจรับประทานครั้งเดียวหรือแบ่งรับประทานวันละ 2-3 ครั้งก็ได้
ข้อควรระวังในการรับประทานคอลลาเจน
- ผู้ที่แพ้อาหารทะเลควรหลีกเลี่ยงการรับประทานคอลลาเจนจากปลาหรือหอย
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานคอลลาเจน
คอลลาเจนที่พบในกระดูกคือ คอลลาเจนไทป์ 1 (Type I collagen) ซึ่งพบได้มากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในกระดูก ทำหน้าที่เป็นโครงร่างหลักของกระดูก ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับกระดูก ทำให้กระดูกสามารถรองรับน้ำหนักและการเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การรับประทานคอลลาเจนเสริมอาจช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงได้ โดยคอลลาเจนจะช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูกใหม่ทดแทนกระดูกเก่าที่เสื่อมสภาพ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น
การศึกษาพบว่า การรับประทานคอลลาเจนเสริมเป็นเวลา 8-12 สัปดาห์ สามารถช่วยเพิ่มมวลกระดูกในผู้สูงอายุได้ โดยการศึกษาหนึ่งพบว่า การรับประทานคอลลาเจนเสริม 10 กรัมต่อวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ สามารถเพิ่มมวลกระดูกสันหลังในผู้สูงอายุได้ถึง 2.1%
นอกจากนี้ การรับประทานคอลลาเจนเสริมยังอาจช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ โดยโรคกระดูกพรุนเป็นภาวะที่กระดูกเปราะบางและแตกหักง่าย เกิดจากการสูญเสียมวลกระดูก การศึกษาพบว่า การรับประทานคอลลาเจนเสริมอาจช่วยชะลอการสูญเสียมวลกระดูกและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน
สรุป
คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์ มีส่วนช่วยในการรักษาความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิว กระดูก เอ็น กล้ามเนื้อ และข้อต่อ การรับประทานคอลลาเจนเสริมอาจช่วยเสริมสร้างสุขภาพในด้านต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานคอลลาเจนในปริมาณที่เหมาะสม และควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานหากมีโรคประจำตัวหรือมีปัญหาสุขภาพ
